ประกันชั้น 2 ทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ขับขี่ที่มีประสบการณ์!

ผู้ขับขี่ที่มีประสบการณ์แล้วประมาณหนึ่ง จะรู้ว่าจริง ๆ แล้วการจ่ายแผนประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่มีราคาสุงมาก จริง ๆ ก็อาจจะไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น แต่ก็เชื่อเลยว่ายังมีความกังวลเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นในใจ ว่าการลดระดับประกันลงไปเป็นขั้นที่น้อยกว่า จะทำให้เสียผลประโยชน์ด้านการคุ้มครอง

จริง ๆ แล้วต้องบอกว่านั่นอาจไม่ใช่ความเข้าใจที่ถูกมากนัก เพราะประกันชั้น 2 สำหรับรถยนต์นั้น ก็ไม่ได้มีคามคุ้มครองด้อยไปกว่าประกันชั้น 1 มากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ด้านการขับขี่แล้วด้วย จริง ๆ ก็เรียกได้ว่าครอบคลุมมากพอแล้ว ส่วนคนที่สงสัยว่าจะคุ้มจริง ๆ หรือไม่ ให้บทความนี้ได้อธิบายเป็นคำตอบ!

ประกันชั้น 2 ทางเลือกของคนที่มีประสบการณ์ด้านการขับขี่

ประกันรถยนต์ชั้น 2 เป็นประเภทประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถ ความเสียหายต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก และค่ารักษาพยาบาลสำหรับบุคคลภายนอก โดยให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมน้อยกว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 แต่มีเบี้ยประกันภัยที่ถูกกว่า

ความคุ้มครองของประกันชั้น 2

  • ความเสียหายต่อตัวรถ กรณีชนแบบมีคู่กรณี
  • ความเสียหายต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก กรณีชนแบบมีคู่กรณี
  • ค่ารักษาพยาบาลสำหรับบุคคลภายนอก กรณีชนแบบมีคู่กรณี

นอกจากนี้ สำหรับคนที่รู้สึกว่ายังไม่เพียงพอ แต่ก็ไม่อยากเสียค่าเบี้ยประกันสูงเท่ากับการซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็สามารถเลือกซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมได้ เช่น

  • ความเสียหายต่อตัวรถ กรณีชนแบบไม่มีคู่กรณี
  • ค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้โดยสาร
  • ค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ขับขี่
  • ค่าทดแทนการสูญเสียรายได้สำหรับผู้ขับขี่

ปัจจัยของการคิดเบี้ยประกันภัยของประกันชั้น 2

  • ประเภทรถยนต์
  • รุ่นรถยนต์
  • ปีที่ผลิตรถยนต์
  • กำลังเครื่องยนต์
  • จังหวัดที่จดทะเบียนรถยนต์
  • ประวัติการขับขี่

โดยเบี้ยประกันภัยของประกันรถยนต์ชั้น 2 โดยทั่วไปจะมีราคาถูกกว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 ประมาณ 10-20%

ข้อดีของประกันชั้น 2

  • เบี้ยประกันภัยถูกกว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด
  • ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม ครอบคลุมความเสียหายต่อตัวรถ ความเสียหายต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก และค่ารักษาพยาบาลสำหรับบุคคลภายนอก
  • สามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมได้ เพิ่มความคุ้มครองให้เหมาะสมกับความต้องการ

ข้อเสียของประกันชั้น 2

  • ให้ความคุ้มครองน้อยกว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 ไม่ครอบคลุมความเสียหายต่อตัวรถ กรณีชนแบบไม่มีคู่กรณี

ปัจจัยในการเลือกซื้อประกันรถยนต์ชั้น 2

  • งบประมาณ พิจารณาเบี้ยประกันภัยให้เหมาะสมกับงบประมาณ
  • ความต้องการ พิจารณาความคุ้มครองที่ต้องการ
  • ประวัติการขับขี่ หากมีประวัติการขับขี่ที่ดี อาจมีส่วนลดเบี้ยประกันภัย

ประกันรถยนต์ชั้น 2 เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ขับขี่ที่มีประสบการณ์ มีงบประมาณจำกัด และต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุม สามารถเลือกซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมได้ตามความต้องการ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องพิจารณาจากประสบการณ์และความปลอดภัยในการขับขี่ของตัวเอง เพื่อให้เลือกกรมธรรม์ที่ตอบโจทย์มากที่สุดนั่นเอง